My Diary


๑. กลัวลูกมีเซ็กส์ในวัยเรียน?
ไม่อยากให้เกิด ต้องเอาปัญญาใส่ในมือลูก
ให้เงินลูกน้อยๆ ให้ความรู้แก่ลูกมากๆ ด่าลูกน้อยๆ ให้คำสอนลูกมากๆ

๒. ไหว้พระขอพรอะไรดี?
(๑) ขออย่าให้โลภจนหน้ามืด
(๒) ขออย่าให้โกรธจนทำร้ายตัวเอง
(๓) ขออย่าให้หลงจนไม่รู้ดีรู้ชั่ว
(๔) ขออย่าให้ตายในสงครามระหว่างคนไทยด้วยกันเอง

๓. ท้อแท้กับปัญหามากมายทำอย่างไรดี?
ปลาที่ยังเป็นอยู่ ล้วนเรียนรู้ที่จะว่ายทวนน้ำ
ส่วนปลาตาย มักไหลตามน้ำ
ปัญหาทำให้คนธรรมดาท้อ แต่ทำให้คนมีปัญญาลุกขึ้นมาแก้ไข

๔. ทะเลาะกับแฟนจนไม่มีสมาธิทำงาน?
งานส่วนงาน แฟนส่วนแฟน
รู้จักแบ่งเวลาให้งาน รู้จักแบ่งเวลาให้แฟน
อย่าเสียงานเพราะแฟน อย่าเสียแฟนเพราะงาน

๕. โกรธ! ถูกเพื่อนนินทา?
โบราณว่าไม่มีใครเตะหมาที่ตายแล้ว
คุณถูกนินทาแสดงว่าคุณยังมีความหมาย
คุณเป็นคนโชคดี จู่ๆ ก็มีกระจกวิเศษสะท้อนความอัปลักษณ์
ให้เห็นความบกพร่องของตัวเอง

๖. จับได้ว่าแฟนมีกิ๊กทำอย่างไรดี?
(๑) ถามตัวเองว่าเราดีกับเขาพอหรือยัง
(๒) ระหว่างเรากับกิ๊กมีข้อดีข้อด้อยต่างกันตรงไหน
(๓) ถามแฟนว่าจะเลือกใครก็รีบทำ
ไม่รักฉัน อย่าทำให้ฉันเสียเวลา

๗. โดนเพื่อนร่วมงานแย่งซีนทำอย่างไร?
เขาแย่งจากเราได้เพียงแค่ซีนและภาพลักษณ์เท่านั้น
แต่เขาไม่สามารถแย่งความรู้และความสามารถไปจากเราได้

๘. งานเยอะมากทำอย่างไรดี?
(๑) รู้ว่างานเยอะต้องรีบทำ
(๒) อย่าดองงานข้ามปีข้ามชาติ
(๓) เรียงลำดับความสำคัญของงาน
สำคัญก่อนให้รีบทำ สำคัญน้อยค่อยทยอยทำ

๙. ทำงานดี มีแต่คนริษยา จะรับมืออย่างไร?
โบราณว่า ไม้ใหญ่ย่อมเจอขวานคม
คนเด่นต้องมีคนด่า คนมีปัญญาจึงมีคนลองดี
คนทำงานดีจึงมีคนริษยา ปรากฏการณ์เช่นว่านี้
เป็นของธรรมดา ทำงานดีจนมีคนริษยา
ยังดีกว่าทำงานไม่ดี จึงเป็นได้อย่างดีแค่คนที่คอยริษยา

๑๐. ทำงานแทบตาย เงินไม่พอใช้ ทำอย่างไรดี?
(๑) หางานใหม่
(๒) ลดความต้องการให้น้อยลง อยู่กับความจริงให้มาก
(๓) บริโภคปัจจัยสี่โดยมุ่งประโยชน์ อย่ามุ่งประดับ
(๔) ทำบัญชีรายรับรายจ่าย รับมากกว่าจ่ายจึงนับว่ายอด
จ่ายมากกว่ารับนับว่าแย่

๑๑. ถูกนายด่า อารมณ์เสีย?
คนที่ด่าคนอื่นสะท้อนว่าระบบข้างใจกำลังพัง
คนอารมณ์เสียเพราะถูกด่า
แสดงว่าระบบของตัวเองก็พังตามไปด้วย

๑๒. ไถ่ชีวิตโคได้บุญมากไหม?
ถ้าไถ่แล้วโคอยู่รอด คุณได้บุญ
แต่หากไถ่เพื่อทำให้วัดอยู่รอด คุณได้บาป
แทนที่จะไถ่โคกระบือ
คุณควรไถ่ตัวเองให้พ้นจากความโลภ โกรธ หลง ดีกว่า

๑๓. แฟนติดหนังเกาหลี ดูทั้งคืนไม่ยอมนอน?
ขอให้คิดว่าอย่างน้อยเธอยังนั่งดูอยู่ในบ้าน
ถึงเธอจะติดหนังเกาหลี ก็ยังดีกว่าติดผู้ชายขี้หลีที่อยู่นอกบ้าน

๑๔. ลูกค้าจู้จี้ทำอย่างไรดี?
มีลูกค้าจู้จี้ยังดีกว่าวันทั้งวันไม่มีใครแวะเวียน
ผ่านมาเยี่ยมเยียนถึงในร้าน
ลูกค้าจู้จี้ได้ แต่คุณต้องทำให้เขาประทับใจเอาไว้เสมอ

๑๕. ไปงานวันเกิดควรได้อะไร?
(๑) ได้ถามตัวเองว่า เราเกิดมาเพื่ออะไร
(๒) ได้ถามตัวเองว่า เราเกิดมาจากใคร
(๓) ได้ถามตัวเองว่า เรากตัญญูต่อผู้ให้กำเนิดแล้วหรือยัง

๑๖. สวดมนต์บทไหนดี?
(๑) สวดพุทธคุณเพื่อเตือนว่า จงเป็นผู้ตื่น
(๒) สวดธรรมคุณเพื่อเตือนว่า
จงเว้นสิ่งที่ควรเว้น จงทำสิ่งที่ควรทำ
(๓) สวดสังฆคุณเพื่อเตือนว่า พระอรหันต์ที่แท้
คือพ่อกับแม่ที่อยู่ในบ้านของเรานั่นเอง

๑๗. สามีไม่สนใจธรรมะเลยทำอย่างไรดี?
(๑) เราควรมีธรรมะให้เขาดู
(๒) เราควรอยู่ให้เขาเห็น
(๓) เราควรสงบเย็นให้เขาได้สัมผัส
เนื่องเพราะ หนึ่งการกระทำสำคัญกว่าพันคำพูด

๑๘. โดนขับรถปาดหน้า โมโหมาก?
(๑) บอกตัวเองว่าโกรธคือโง่ โมโหคือบ้า ด่าคือมาร ระรานคือบาป
(๒) เปลี่ยนการด่าเป็นการแผ่เมตตาให้เขาถึงที่หมายโดยปลอดภัย
(๓) เตือนตนไว้ว่า อย่าขับรถปาดหน้าใคร เพราะอาจมีอันตรายรอบด้าน

๑๙. อยู่ในกลุ่มเพื่อนชอบนินทาจะตีจากดีไหม?
ท่านพุทธทาสกล่าวว่า คนชอบนินทาคือคนที่ชอบกินของเน่า
ถ้าเราร่วมผสมโรงไปกับเขา แสดงว่าเราเองก็ชอบกินของเน่าไม่เบาเหมือนกัน

๒๐. ทำไมมักเจอสิ่งที่ไม่ชอบใจอยู่เสมอ?
ผู้รู้บอกว่า ศิลปินอย่าดูหมิ่นศิลปะ กองขยะดูดีๆ ยังมีศิลป์
ดังนั้น ในสิ่งที่คุณไม่ชอบ ย่อมมีแง่มุมที่คุณชอบอย่างแน่นอน
มองอย่างพินิจจะพบว่า ในดีมีเสีย ในเสียมีดี

ที่มา: วิชาการ.คอม: www.vcharkarn.com



สิ่งที่ทำพลาดไปใน 4 ปี (การติดเกมส์ออนไลน์) ความคิดของคนๆนึงที่คิดได้ !!

           การเล่นเกมส์มันช่วยให้ ความเพลิดเพลินได้ก็จริง แต่ถ้าเสพติดกับมันไปแล้วนั้น การที่จะเลิกเล่นเกมส์มันยากมาก สังคมทุกๆเกมส์จะมีเหมือนกันหมด คือ

     1. จะเจอเพื่อน คนรัก อาจจะมีเพื่อนแท้ หรือเพื่อนไม่แท้ ก็ค้นหาได้ในโลกของเกมส์ออนไลน์

     2. เปลืองเงิน .. ข้อนี้สำหรับบางคนก็จะมองว่า บ้านกูรวย ไม่สนใจ แต่ถ้าคนที่มองนอกกรอบได้ ก็จะนำเงินที่เติมเกมส์เหล่านั้นไปทำอะไรที่มันมีค่าได้อีกเยอะ

     3.ทะเลาะ กัน นัดเจอกันนอกเกมส์ ... กรณีแรก อาจจะมีทะเลาะกันในเกมส์ ไม่พอใจกัน หรือมีปัญหาอะไรสักอย่าง ก็จะเคลียร์กันในเกมส์ไม่ได้ ต้องนัดเจอกันนอกเกมส์ ประมาณว่าโชว์พาว กูเก่ง กูเก๋า กูไม่กลัวใคร ส่วนกรณีที่สอง นัดเจอกันนอกเกมส์ตามประสาคู่รัก คุยกันในเกมส์ อีกหน่อยก็คุย msn ต่อมาอีกก็ขอเบอร์โทรศัพท์คุยกัน ถูกใจถูกสเป็ค ก็นัดเจอกัน เจอคนที่ดีก็ดีไป ! แต่ถ้าเจอไม่ดี ก็ตัวใครตัวมันละงานนี้ !
  
     4. เราจะลืมมองรอบๆตัวเราว่ามีสิ่งอะไรดีๆอยู่บ้าง เราจะคิดแค่ว่าโลกในเกมส์ออนไลน์นั้นเป็นโลกที่เราอยู่จริงๆ เป็นโลกที่เราอยู่แล้วมีความสุข พอเราออนไลน์เข้าไปก็เจอแต่เพื่อนดีๆ เจอแฟน เจอคนรัก เราก็เลยมองว่ามันเป็นความสุข แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่เลย มันเป็นแค่ความคิดส่วนหนึ่งในหัวสมองเราเท่านั้น แล้วถ้าคุณคิดได้ คุณก็จะรู้ว่า สิ่งที่คุณคิดนั้นมันไร้สาระมาก

    
    5. ลองคิดดูดีๆสิ ตัวละครในเกมส์ กับตัวตนเราจริงๆ มันต่างกันมาก หน้าตา ทรงผม ทุกๆอย่าง อย่าคิดว่าเรา สวย หล่อ เหมือนตัวละครในเกมส์ อย่าคิดว่าตัวละครในเกมส์คือตัวเรา ~

     6. วันๆไม่ทำอะไร ออนเกมส์ทิ้งไว้ เล่นเกมส์ ตอบปัญหาที่เว็ปแคลน กิลด์ คลับ ด่ากันไปด่ากันมา เข้าพ่อแม่ตัวเองหมด (จะมีบางจำพวกที่ชอบด่าพ่อล่อแม่)

    7. ร่างกายเริ่มโทรม ขอบตาดำ เพราะนอนดึก บางรายไม่กินข้าวเพื่อนั่งกดเกมสฺ์ก็มี แล้วลองมองลึกมากไปกว่านั้น ไปนั่งเล่นร้านเกมส์ทีไร เจอแต่เด็กตัวกะเปี๊ยก อนุบาล 1 ยังมี มานั่งเล่นเกมส์งี้ สงสัยมาตลอดว่ามันเอาเงินที่ไหนมานั่งเล่นเกมส์ บางทีมันเล่นนานกว่าเราอีกนะ สงสารพ่อแม่เด็กจริงๆ

     8. เล่นเกมส์มากไปจนไม่สนใจคนรอบข้าง ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ ครอบครัว คนรัก หรือแฟน มีกรณีเลิกกับแฟนเพราะติดเกมส์บ่อยๆ ก็มี 

     9. เสียเวลาเรียน เสียเวลาทำงาน บางคนโดดเรียนไปเล่นเกมส์ บางคนหยุดงานไปเล่นเกมส์ มันคุ้มกันไหม ? ถ้าคิดว่าคุ้มก็เชิญทำต่อไป ~

     10. ภาษาไทยวิบัติ เจอเยอะมาก

      11. ใครเลิกเล่นได้มันก็เป็นผลดีกับตัวเรา ใครที่เลิกไม่ได้ ก็ขอให้ลดๆลงหน่อย ลองย้อนกลับไปอ่าน ข้อ 1 - 10 แล้วลองคิดดู ถ้าไม่ตรงข้อไหน ก็แสดงความคิดเห็นได้ เปิดใจรับฟังเสมอ


เราต้องเป็นคนเล่นเกส์ อย่าปล่อยให้เกมส์เล่นเรา

ไขปัญหาของคนทำงานกับท่าน ว.วชิรเมธี

Q: เข้ากับเพื่อนร่วมงานไม่ค่อยได้ เคยลองปรับตัวแล้วก็ยังไม่รู้สึกดีขึ้น ตอนนี้ไม่มีความสุขเลย

A: คุณต้องแยกแยะปัญหาให้ชัดเจนก่อนว่า ปัญหามาจากเรื่องงานหรือเรื่องคน แล้วค่อยแก้ทีละเรื่อง ถ้าเป็นเรื่องคน ก็ต้องเรียนรู้ที่จะกล้าเข้าไปพูด เพื่อขอให้เขาและเราแก้ปัญหาร่วมกัน แต่ถ้าเป็นปัญหาที่เกิดเพราะเรา ก็ต้องกล้าที่จะปรับเปลี่ยนความเคยชินให้สอดคล้องกับวัฒนธรรมองค์กร อาตมาคิดว่าไม่มีอะไรเหลือวิสัยสำหรับคนตั้งใจที่จะเปลี่ยนแปลง


Q: ในที่ทำงานมีกลุ่มชอบเมาท์ แต่เราไม่ใช่คนแบบนั้น

A: ในทางพุทธ ถ้ามีคนตั้งวงนินทาว่าร้าย มีทางเลือก 2 อย่าง หนึ่ง ให้เดินออกจากตรงนั้นไป สอง นิ่งอย่างอริยะ ฟังเท่านั้น โนคอมเม้นต์สถานเดียว เพราะการที่เราไปร่วมวงไพบูลย์กับเขาก็เหมือนกับว่าเราเป็นคนเลวพอๆ กับเขานั่นเอง


Q: ระหว่างทำงานได้เงินเดือนเยอะๆ แต่ไม่มีความสุขจากการทำงานเลย กับได้เงินเดือนน้อยๆ แต่มีความสุขมาก เราควรเลือกอย่างไหนดี

A: ควรเลือกที่จะมีชีวิตที่มีความสุข เพราะชีวิตที่ถูกใช้ไปอย่างมีความทุกข์หรือความสุข ก็ไม่อาจเรียกชีวิตคืนได้ทั้งสิ้น ฉะนั้นในเมื่อวันเวลาที่ถูกใช้ไปเป็นสิ่งที่ไม่สามารถรีไซเคิลได้อีกแล้ว ทำไมคุณไม่เลือกที่จะมีชีวิตที่มีความสุขล่ะ




Q: การทำงานอาจเกิดการขัดแข้งขัดขากัน ถ้าเราทำบ้างจะเป็นบาปไหม

A: ถ้าเราทำ เราก็บาป หรือถ้าเราถูกกระทำ คนที่ทำเราก็บาป ทางที่ถูกต้องคือต้องยอมรับว่าโลกนี้มีคนเก่งอยู่มากมาย ใครก็ตามที่ทำงานกับเรา หากเขามีศักยภาพเป็นแม่ทัพก็ต้องให้เขาเป็น กีดกั้นเขาไว้ก็เป็นการแสดงออกว่าสุขภาพจิตของเรายังอยู่ในวิวัฒนาการขั้น ต่ำมาก เราต้องยอมรับที่จะจัดวางที่อยู่ที่ยืนให้คนอื่นด้วย ยิ่งมีคนเก่งในองค์กรมากๆ ยิ่งสะท้อนว่าองค์กรของเรามีประสิทธิภาพจริงๆ


Q: ข้าราชการเกษียณที่อายุ 60 ปี ในทางธรรมะ อายุการทำงานของคนเราควรหยุดที่ประมาณเท่าไร

A: เราควรจะยุติงานรูทีนทั้งหลายเมื่อรู้สึกว่าชีวิตเสียสมดุล ในโลกนี้มีคนจำนวนมากที่ทำงานแล้วงานได้ผล แต่คนไม่เป็นสุข งานสัมฤทธิ์แต่ชีวิตไม่รื่นรมย์ นั่นเป็นเพราะเขาไม่มองหาสมดุลในการดำรงชีวิตกับการทำงาน ทางออกก็คือ จะต้องแสวงหาทางสายกลางระหว่างการทำงานกับการดำรงชีวิตให้เจอ ซึ่งมีสูตรง่ายๆ คือ การทำงานให้ประสานกับคุณภาพของชีวิต นั่นคือผลสัมฤทธิ์ของทางสายกลาง ถ้าคุณแสวงหาทางสายกลางพบแล้ว คุณจะทำงานไปจนแก่จนเฒ่าก็ได้

Q: ธรรมะข้อไหนที่เหมาะกับคนทำงานมากที่สุด

A: หลักอิทธิบาทสี่ของพระพุทธองค์น่าจะเหมาะที่สุด หนึ่ง มีใจรัก สอง พากเพียรทำ คือขอให้ทำงานด้วยความขยันขันแข็ง ต่อเนื่องงานก็จะประสบความสำเร็จได้ สาม จดจำจ่อจิต คือขอให้ทุ่มเทและอุทิศตน และสี่ วินิจวิจัย คือถ้าเราทำงานด้วยความคิดสร้างสรรค์งานของเราก็จะมหัศจรรย์เสมอ


Q: สังคมในที่ทำงานมักมีการสังสรรค์เพื่อให้เกิดการเข้าสังคม แต่เราไม่ชอบเข้าสังคมด้วยวิธีนี้

A: ถ้าจะดื่มก็ต้องดื่มด้วยความรู้สึกตัว แล้วจะมองเห็นความพอดีอยู่ตรงนั้น แต่ถ้าดื่มแล้วไม่รู้ว่ากำลังดื่ม ดื่มจนสนุกสนานแล้วก็เลยเถิด ปัญหาก็จะตามมาทันที พระอาจารย์เชื่อว่าคำว่า “พอ” จะเกิดขึ้นโดยอัตโนมัติเมื่อเราตระหนักรู้ หรือมีอีกวิธีหนึ่งคือ อยู่ตรงนั้น แต่เราแสวงทางออกได้ เช่น คุณดื่มสุรานะ แต่ผมขอเป็นน้ำผลไม้ก็แล้วกัน อันนี้ก็ไม่เสียเพื่อน ไม่เสียสุขภาพ